WOLF ALICE - BLUE WEEKEND [NEW ALBUM RELEASE]

Wolf_Alice_567.jpg

การกลับมาอย่างสมการรอคอยกับ ‘Blue Weekend’ อัลบั้มใหม่ชุดที่ 3 จากอินดี้ร็อกสุดเท่ Wolf Alice 

ย้อนกลับไปในช่วงยุคกลางๆของ 2010s ที่เรียกได้ว่ามีวงอินดี้รุ่นใหม่เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด แต่มีบางสิ่งที่ทำให้ Wolf Alice วงอินดี้ร็อกจากเกาะอังกฤษ นั้นแตกต่างจากคนอื่นเสมอ อาจจะเป็นเพลงที่ทำให้รู้สึกถึงบรรยากาศอันเย็นยะเยือก รวมถึงการเรียบเรียงที่เหมือนจะธรรมดาแต่กลับโดดเด่นทั้งสไตล์การแต่งและร้อง การผสมผสานแนวดนตรี Alternative Rock ไว้หลากหลายเช่น Dreampop/ Shoegaze /Post-Grunge /Post-Punk /Psychedelic Rock แถมยังแฝงความเป็น Folk ไว้ด้วย (จุดเริ่มต้นของวงเริ่มจากเป็นวง Folk/ Acoustic) ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยที่วงเพียงปล่อยอัลบั้มแรก My Love Is Cool ในปี 2015 ก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงอัลบั้มยอดเยี่ยมของ Mercury Prize (รางวัลอันทรงเกียรติที่มอบให้กับ ‘อัลบั้มยอดเยี่ยมในสหราชอาณาจักร’ จัดขึ้นทุกๆปีจนกลายเป็นธรรมเนียมของอังกฤษ) จนสุดท้ายวงก็ได้รับการเสนอชื่ออีกครั้งและได้รับรางวัลนั้นในปี 2018 กับอัลบั้มชุดที่ 2 Visions of a Life (2017) ด้วยคำชมจากนักวิจารณ์มากมาย และวันนี้พวกเขากลับมาอย่างเต็มตัวพร้อมอัลบั้มใหม่ชุดที่ 3 แล้วกับ Blue Weekend

Wolf Alice วงอินดี้ร็อกจากลอนดอน ประเทศอังกฤษ ประกอบด้วย 4 สมาชิก ได้แก่ Ellie Rowsell (ร้องนำ/กีตาร์), Joel Amey (กลอง), Theo Ellis (เบส) และ Joff Oddie (กีตาร์) กลับมาพร้อมปล่อยอัลบั้มชุดที่สาม Blue Weekend ภายใต้สังกัดเดิม Dirty Hit (ค่ายเดียวกับ The1975, Pale Waves, Beabadoobee) หลังปล่อย 3 ซิงเกิลใหม่ออกมาให้ฟังกันเมื่อเดือนก่อน ๆ ที่ผ่านมาอย่าง “The Last Man On Earth”  ที่เปิดตัวด้วยท่วงทำนองบัลลาดผสานกับเสียงร้องอันทรงพลังที่ลุ่มลึกมีสไตล์ gospel ที่ก้องกังวานดั่งแสงสว่างแห่งความหวังจาก Ellie ที่พูดถึงความหยิ่งผยองของมนุษย์ ซิงเกิลต่อมา “Smile” ไลน์กีตาร์อันทรงพลังบวกกับเสียงซินธ์สุดอวกาศ และเนื้อเพลงที่ Ellie ได้แรงบันดาลใจจากการไม่ยอมแพ้และต่อสู้กับสิ่งที่คนอื่นกำหนดให้เธอเป็น และ “No Hard Feelings” ซิงเกิลที่ 3 ก่อนปล่อยอัลบั้มเต็ม ที่ซาวด์เอฟเฟคดีเลย์บนเบสและริฟฟ์กีตาร์โดดเด่น เมโลดี้ร้องติดหู

นอกจากนี้ยังมีเพลงอื่นที่โดดอีกเด่นมากมายในอัลบั้มอย่างเช่น "Delicious Things" ที่ Ellie จะพาคุณไปยังเมือง Los Angles อันน่าใหลอันห่างไกลบ้านพร้อมทำนองสุดไพเราะ เพื่อพาคุณสำรวจและหลบหนีกลับสู่ความเป็นจริงในตอนท้าย “Lipstick On The Glass” เรนจ์เสียงร้องของ Ellie โดดเด่นเหมือนทะลุออกมาจากความมืดท่ามกลางเสียงกีตาร์ที่ค่อย ๆ ดำเนินไปอย่างเรียบง่ายสบาย ๆ ซึ่งน่าฟังเธอร้องสดอย่างมาก "Safe from Heartbreak (If You Never Fall in Love)" เพลงท่วงทำนองสไตล์ Folk อันไพเราะที่ได้มือกลอง Joel ได้ร่วมร้องประสานแบบ acappella อันสวยงามร่วมกับ Ellie "How Can I Make It OK?" อีกหนึ่งซิงเกิลที่ปล่อยออกมาวันเดียวกันพร้อมกับอัลบั้ม อดไม่ได้ที่จะนึกถึงซาวด์สไตล์ The 1975 วงเพื่อนร่วมค่ายที่เคยทัวร์ด้วยกัน และต้องบอกว่า Wolf Alice มีความเชี่ยวชาญในการจัดเรียงเครื่องดนตรีและเสียงร้องได้อย่างโดดเด่น "Play the Greatest Hits" โดดเด่นด้วยเสียงเบสอันก้องกังวาลของ Theo และตามด้วยการสาดกีตาร์สร้าง wall of noise ขึ้นในท่อนฮุคของ Joff ส่วน Ellie เตือนเราว่าชีวิตมีอะไรมากกว่าความพยายามที่จะโรแมนติก

Wolf Alice ยังคงนำเสนอเนื้อหาที่มีความเป็นมนุษย์ได้อย่างโดดเด่น ก้าวกระโดดขึ้นทั้งเนื้อเพลงและการเรียบดนตรี คงไว้ซึ่งจิตวิญญาณที่มีความเกรี้ยวกราด ทำให้พวกเขาคาดเดายากและน่าตื่นเต้นที่ได้ฟัง โดยรวมแล้วอัลบั้ม Blue Weekend จะพาคุณไปยังสถานที่ลึกลับมากขึ้น พูดถึงประสบการณ์ชีวิต ความรัก และความสูญเสีย การศึกษาเรื่องความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก เพื่อนรอบตัว และแม้แต่ตัวเองกับโลกใบนี้ ไปกับเสียงที่ดนตรีของพวกเขาด้วยการผสมผสานสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์เข้าด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นเอกของพวกเขาเลย!


SharedImage-120007.png
Untitled design (1).png
 

THE LATEST

Previous
Previous

SISTERS WITH TRANSISTORS

Next
Next

BEACH FOSSILS | 10 LIVE PERFORMANCES I LOVE