Hiatus Kaiyote กับอัลบั้มที่พุ่งพล่านทางด้านอารมณ์ ‘Mood Valiant’

สิ้นสุดการรอคอยที่ยาวนานกว่าหกปีสำหรับแฟนเพลงวง Hiatus Kaiyote หลังจากที่พวกเขาได้คลอดผลงานชุดใหม่ออกมากับ Mood Valiant อัลบั้มชุดที่สามต่อจาก Choose Your Weapon (2015) และ Tawk Tomahawk (2013) เดบิวต์อัลบั้มที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Grammy Awards ในเพลง “Nakamarra”

วงนีโอโซลจากเมืองเมลเบิร์นวงนี้ประกอบไปด้วยเมมเบอร์สี่คน ได้แก่ Naomi Saalfield (Nai Palm) ร้องนำ/กีตาร์ Paul Bender มือเบส Simon Mavin ตำแหน่งคีย์บอร์ด และ Perrin Moss ดูแลส่วนของเพอร์คัชชัน ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าผลงานของ Hiatus Kaiyote นั้นไม่ธรรมดา เพราะเพลงของพวกเขาทั้งสี่ได้ถูกนำไปแซมเปิลโดยศิลปินดังทางอีกฝั่งของมหาสมุทรอย่าง Anderson Paak, Kendrick Lamar, Drake รวมไปถึง Beyoncé และ Jay-Z เพราะด้วยความสามารถในการทำเพลงที่สร้างสรรค์ จึงทำให้ทุกคนต่างจับตาดูว่าพวกเขาจะหยิบยกเอาอะไรมาโชว์ไว้ในผลงานชุดใหม่

ทว่ากว่าจะออกมาเป็น Mood Valiant ทางวงต้องเผชิญกับเรื่องไม่คาดคิดมากมาย พวกเขาได้เริ่มลงมือทำอัลบั้มนี้ในปี 2018 ก่อนจะต้องถูกพักไปเนื่องจาก Nai Palm ได้ตรวจเจอมะเร็งเต้านมในปลายปีนั้น เมื่อเธอพักรักษาจนหายดี พวกเขาก็ลุยทำอัลบั้มนี้จนเสร็จ และเพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณแม่ของ Nai Palm ที่เสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมตอนที่เธอยังเป็นเด็ก เธอจึงตั้งชื่ออัลบั้มนี้ตามรถรุ่น Plymouth Valiant ที่แม่ของเธอชอบขับ

เมื่อเดือนมีนาคมทางวงได้ปล่อย “Get Sun” ออกมาเป็นพรีวิวเพลงแรกจากอัลบั้ม ซึ่งได้ Arthur Verocai คอมโพสเซอร์ชาวบราซิลฝีมือดีมาร่วมแจม จึงทำให้แทรกนี้มีสไตล์บอสซาโนวา เน้นเครื่องสายและเครื่องเป่าต่างๆ ให้อารมณ์อุ่นๆ เหมือนกำลังไปพักผ่อนในประเทศป่าฝนเขตร้อน Paul Bender เล่าว่า “พวกเราได้อัดเพลง “Get Sun” เอาไว้ ซึ่งมันก็เพราะอยู่แล้ว ตอนนั้นเราไม่รู้เลยว่าเขาแต่งอะไรไว้ให้เพลงนี้บ้าง แต่เมื่อ Verocai เริ่มเล่นเครื่องเป่ากับเครื่องสายในส่วนของเขาขึ้นมา มันเหมือนเป็นการปลดปล่อยของทุกคน ผมนี่น้ำตาไหลเลยล่ะ”

ต่อมาในซิงเกิล “Red Room” มี Bender และ Moss แต่งทำนองไว้ขณะที่อยู่ประเทศบราซิล เมื่อเปรียบเทียบกับซิงเกิลก่อนหน้า เพลงนี้มีความ laid-back และฟังก์มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ประมาณสองอาทิตย์ก่อนออกอัลบั้มเต็ม วงได้ปล่อย “Chivalry is not Dead” ซิงเกิลสุดท้ายออกมา ซึ่งมันเป็นเพลงที่ Nai Palm แต่งขึ้นเพื่อประชด เพราะจากอัลบั้มที่แล้ว เธอต้องมานั่งตัดเพลงความยาวห้าถึงหกนาทีให้สั้นลงเพื่อนำมาเปิดบนวิทยุ ดังนั้นในเพลงนี้เธอเลือกที่จะแต่งเนื้อร้องเกี่ยวกับเซ็กส์ในความยาวสามนาทีกว่า เช่นเดียวกันกับเพลงฮิตติดชาร์ตส่วนใหญ่ แต่มันเป็นเซ็กส์ระหว่างสัตว์ต่างๆ “If I were a leopard slug I would reach out with the / Blue rose of ours, wrapping myself around you / High up in the tree tops, we could get lost in our lust”