A Guide to Goth Subculture


ทำความรู้จักกับ Goth Subculture

Goth.jpg

What is Goth?

Goth คือ วัฒนธรรมขนาดย่อมที่แยกออกมาจาก punk movement และเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ให้เกิดเป็นดนตรี เทรนด์แฟชั่นการแต่งตัว หรือแม้แต่ภาพยนตร์มากมายมาตลอดหลายสิบปีจนถึงปัจจุบัน มีต้นกำเนิดในประเทศอังกฤษ เมื่อประมาณปลายปี 70 ถึงปี 80 ตอนต้น goth มีลักษณะคล้ายคลึงกับ punk ในหลายแง่ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ การแสดงออกถึงความไม่พอใจในชีวิตภายใต้รัฐบาลอังกฤษ

ลักษณะเด่นของดนตรี goth จะมีเนื้อหาที่ไม่สนใจความเชื่อทางศาสนาหรือกรอบของศีลธรรม (Nihilistic) เช่น หัวข้อเกี่ยวกับการทารุณกรรมเด็กและความตายของเพื่อนพ้องหรือคนในครอบครัว ในขณะที่ตัวดนตรีก็ยังคงความรู้สึกทางศิลปะและดนตรีไว้ ประกอบกับการใช้เบสหนักๆ  synthesizer แบบเข้มข้นและเสียงสะท้อน echo ที่ให้ความรู้สึกราวกับต้องมนต์สะกด


ในปี 1967 นักวิจารณ์ที่ชื่อ John Stickney ได้ใช้คำว่า gothic rockพูดถึงเพลงที่มีเนื้อหาสุดดาร์กและท่วงทำนองอันมืดหม่นของ The Doors ในรีวิวของเขา ซึ่งเขียนว่าเขาได้พบกับสมาชิกวง “ในห้องเก็บไวน์ใต้ดินมืดๆ ของโรงแรม Delmonico ช่างเป็นห้องที่เพอร์เฟ็คสำหรับความเป็น gothic rock ของวง The Doors ซะจริงๆ ” 

The Doors

The Doors


ส่วนวงที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นวง gothic rock อย่าง Joy Division กับ Siouxsie and the Banshees เป็นแนวดนตรีในยุคที่เรียกว่า post-punk movement ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากศิลปินและวงรุ่นบุกเบิกเช่นเดียวกับ The Doors ได้แก่ Marc Bolan, The Velvet Underground, David Bowie, Brian Eno, Iggy Pop และ The Sex Pistols อย่างไรก็ตาม ก็มีคนจำนวนหนึ่งที่เชื่อว่า goth ได้กลายมาเป็นแขนงหนึ่งของดนตรีอย่างแท้จริงเมื่อ Bauhaus ได้เดบิวต์วงด้วยซิงเกิลชื่อ ‘Bela Lugosi’s Dead’ ในปี 1979 หลังจากนั้นมาก็มีวงดนตรีหลายวงที่เริ่มทำเพลงแนวคล้ายกันและขยายแนวดนตรี Goth ออกไปเป็นแขนงย่อยอื่นๆ อีกมากมาย เช่น The Cure, Sisters of Mercy และ Type O Negative

Joy Division

Joy Division

Bauhaus

Bauhaus

โดยรวมแล้ววัฒนธรรม goth รวมถึงดนตรีในกลุ่มที่ได้กล่าวถึงมาในข้างต้น เป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังที่สั่งสมออกมากจากอารมณ์ลบต่างๆ ที่คนกลุ่มนี้รู้สึกต่อประเทศ  ทั้งแอดติจูดการมองโลกในแง่ลบ และการขาดความเชื่อมั่นในสังคม สภาวะเศรษฐกิจของอังกฤษในขณะนั้น โดยสิ่งเหล่านี้ถูกแสดงออกมาผ่านแพชชั่นอันแรงกล้าที่มีทั้งความสิ้นหวังเจือปนไปกับการหวนคิดถึงอดีตของผู้คน


The Batcave Nightclub — The Mother of Goth Subculture

25.png

The Batcave เป็นไนท์คลับย่าน Soho ในกรุง London ถูกสร้างขึ้นโดย Ollie Wisdom นักร้องนำของวง Specimen ในปี 1982 มีจุดประสงค์เพื่อสรรหาพื้นที่สำหรับความบันเทิงที่มีความดาร์กและแปลกใหม่ แตกต่างไปจากสื่อกระแสหลัก กฎสองข้อของคลับนี้คือ ห้ามเล่นเพลง funk กับ disco ทางเข้าของคลับนั้นอยู่ที่ชั้นสี่ของอาคาร โดยผู้ที่ต้องการจะเข้าร่วมต้องโดยสารลิฟท์ที่ขึ้นได้เพียงครั้งละสองคน แล้วเดินผ่านประตูที่ทำมาจากโลงศพที่ถูกเอาฝาและแผ่นกระดานออก tเพื่อที่จะพบกับห้องที่ถูกตกแต่งด้วยใยแมงมุมและม่านหมอก โดยในแต่ละวันจะมีการจัดกิจกรรมที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการเปิดหนังสยองขวัญภาพขาวดำ  โชว์คาบาเร่ต์แดร็ก หรือการแสดงคอนเสิร์ต

ในตอนแรกทางคลับไม่ได้มีความตั้งใจที่จะสร้างความเป็น goth ขึ้นมา เพลย์ลิสต์ที่เล่นส่วนใหญ่เป็นดนตรีแนว punk, post-rock, reggae, glam rock และ new wave ซึ่งได้ผู้เล่นอย่าง Bowie, T Rex, The Sex Pistols, The Clash, Jimi Hendrix และอื่นๆ มาร่วมแสดง จนค่อยๆ มีความเปลี่ยนแปลงกลายเป็น gothในที่สุด The Batcave จึงถือเป็นสถานที่ที่ให้กำเนิด goth ทั้งในด้านวงการแฟชั่นและวงการดนตรี

26.png
27.png

Gothic — The Origin of the Name

คำว่า gothic เดิมแล้วมาจากคำที่ใช้เรียกชาวเยอรมันในยุคโบราณหรือที่รู้จักในฐานะชาว Goths และเนื่องจากพวกเขาเป็นสาเหตุหลักของการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันฝั่งตะวันตก คำว่า gothic จึงถูกนำมาผูกโยงกับความโหดร้าย และความป่าเถื่อน แต่ในช่วงยุคมืด (the Middle Ages) เกิดสถาปัตยกรรมของฝรั่งเศสแบบใหม่ที่เรียกว่า gothic ด้วยความสูงใหญ่ของอาคารทำให้หลายคนในสมัยนั้นมองว่ามันให้ความรู้สึกถึงความเก่าแก่ออกไปทางน่ากลัว ซึ่งต่างจาก classical Roman อย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้อาคารและโบสถ์สไตล์ gothic ก็ถูกนำมาเป็นสถานที่ประกอบของงานเขียนที่ภายหลังถูกเรียกว่า วรรณกรรม gothic มีใจความหลักพูดถึง ความชั่วร้าย ความน่าพิศวง และความเศร้าโศกของมนุษย์ และเมื่อวงดนตรีที่มีการแสดงออกทั้งด้านดนตรีและแฟชั่นในสไตล์ที่มีความดาร์ก จึงถือเป็นการกำเนิดของดนตรีแขนงใหม่ขึ้นในประวัติศาสตร์ (gothic music) พร้อมทั้งชื่อที่ใช้เรียกเหล่าบรรดาสาวกของเพลง (goths) ที่เราได้ยินกันในทุกวันนี้


Goth Fashion

สไตล์ส่วนใหญ่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแฟชั่น punk รวมไปถึงแฟชั่นยุค Victorian, Edwardian และ Elizabethan ของอังกฤษ โดยเสื้อผ้าจะคุมโทนสีโทนดำมากเป็นพิเศษ ให้ความรู้สึกลึกลับ ออกแนวย้อนยุคหน่อยๆ  ประกอบกับการทาปากและเล็บด้วยสีดำ อายไลเนอร์สีเข้ม  หรือแม้กระทั่งย้อมผมดำก็มี เสื้อผ้าส่วนมากจะเป็น DIY ที่ได้มาจากร้านขายเสื้อมือสองไม่ว่าจะเป็นแจ็กเก็ต ถุงน่อง หรือกางเกงยีนส์ ยกเว้นอย่างเดียวที่ถือว่าขาดไปไม่ได้เลย ของชาว goth นั่นคือ รองเท้า (combat boot หรือ winklepickers)  ที่มักจะมีราคาแพงที่สุดในบรรดาเสื้อผ้าทั้งหมด 

  • Cabaret goth - รู้จักในชื่อ Burlesque goth ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก flapper girls บวกผมดำและเดรสลูกไม้สีเข้ม

  • Chained goth - เน้นใช้โซ่เป็น accessory หลัก เป็นสไตล์สุดคลาสสิคของ goth

  • Corp goth - บางทีก็เรียก city goth เป็นสไตล์ที่ปรับให้เข้ากับสังคมในชีวิตประจำวัน

  • Cybergoth - เป็นส่วนผสมของ cyberpunk, goth และ raver เข้าด้วยกัน

  • Casual goth - ชุดลำลองทั่วไป ยีนส์หรือขาสั้นสีดำ รองเท้าบูท และที่สำคัญที่สุด เสื้อยืด!

  • Gothic lolita - เน้นความสง่างามที่แสดงถึงความเป็นชนชั้นสูงด้วยเดรสที่มีลูกไม้ ปกคอฟู่ฟ่า ที่คาดผม และรองเท้าหรูหรา

  • Pastel goth - เป็นสไตล์ที่ดูน่ารักใสๆ ด้วยสีพาสเทลอ่อนหวาน

  • Trad goth - goth ยุค 80s ของอังกฤษ ที่มีทรงผมพองฟู ถุงน่องตาข่าย รองเท้าบูท winklepickers และการแต่งหน้าด้วยเมคอัพหนาๆ 

  • Victorian goth - เป็นส่วนผสมของ goth และไลฟ์สไตล์ของชนชั้นสูงด้วยเสื้อผ้าที่ดูฟุ้งเฟ้อ


Goth Stereotypes 

อย่างที่ได้กล่าวไปในตอนต้นว่า goth เป็นวัฒนธรรมขนาดย่อมที่ไม่เพียงแต่ส่งอิทธิพลต่อวงการบันเทิงและแฟชั่นแต่ยังถูกนำไปพูดถึงในสื่อกระแสหลักมากมาย ซึ่งภาพบางอย่างที่ถูกถ่ายทอดออกไปนั้นอาจไม่ใช่ภาพที่สามารถใช้แทนคนทุกคนในกลุ่มนี้ได้ทั้งหมดอย่างถูกต้องเสมอไป จึงก่อให้เกิดเป็นภาพจำแบบผิดๆ  หลายครั้งที่ชาว goth ถูกเหมารวมว่าต้องเป็นคนที่เศร้าหมอง หยาบคาย ใช้สารเสพติด ใส่แค่เสื้อผ้าสีดำ นับถือซาตาน หรือแม้แต่มีความเกี่ยวข้องกับแวมไพร์ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ goth ทุกคนจะมีลักษณะดังที่กล่าวมา

คนที่นิยามตัวเองว่า goth คือกลุ่มคนที่มองเห็นสวยงามในเรื่องที่คนส่วนใหญ่คิดว่าลึกลับหรือน่ากลัวเกินกว่าจะเอามาพูดถึง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขานั้นเป็นคนชั่วร้ายแต่อย่างใด ในทางกลับกันพวกเขาคือกลุ่มคนที่มองโลกในแบบที่แตกต่างจากคนอื่นๆ  เทียบง่ายๆ ว่าถ้า punk เป็นพวกที่มีแนวคิดต่อต้านความคิดเห็นส่วนใหญ่ของสังคม goth คือคนที่ไม่สนใจใยดีอะไรต่อสังคมเลย ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังสร้างโลกส่วนตัวของตัวเองขึ้นมาอีกด้วย goth ไม่ได้นับถือซาตาน หรือเป็นลัทธิแม่มด และพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องนับถือศาสนาใดศาสนาหนึ่งเพื่อเรียกตัวเองว่า goth นอกจากนี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องใส่เฉพาะเสื้อผ้าสีดำ มีรอยสักทั่วร่างกาย หรือชอบใช้ความรุนแรง และการที่คนคนหนึ่งเป็น goth ไม่ได้แปลว่าพวกเขาต้องเป็นบุคคลที่ซึมเศร้าหรือมีแนวโน้มที่จะทำร้ายตัวเองเสมอไป



 

THE LATEST

Previous
Previous

Pink Floyd’s “Another Brick in the Wall Pt.2” and Thailand Education System

Next
Next

HIATUS KAIYOTE - MOOD VALIANT [NEW ALBUM PICK]