tame impala - innerspeaker : live from the wave house
Innerspeaker : Live from the Wave House คอนเสิร์ตแบบออนไลน์จาก Tame Impala ที่จะเล่นเพลงอัลบั้มแรกตั้งแต่ต้นจนจบ!
ถ้าจะให้พูดถึงวงดนตรีอินดี้ร็อกระดับ magnet ที่มักจะเห็นชื่ออยู่เเถวบนสุดของหลายๆ โปสเตอร์เทศการดนตรีระดับโลกช่วงครึ่งทศวรรษ 2010s คงจะหนีไม่พ้น Tame Impala วงดนตรีไซคีเดลิกร็อกจากเมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย หลังจาก Currents (2015) สตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 3 ประสบความสำเร็จสูงสุดทั้งในเเง่รายได้เเละคำวิจารณ์ พวกเค้าได้ออกทัวร์อย่างต่อเนื่องถึง 5 ปีเเม้ยังไม่มีผลงานใหม่ จวบจนมาถึงช่วงต้นปี 2020 สตูดิโออัลบั้มล่าสุด The Slow Rush ก็ถูกปล่อยออกมาในช่วงเริ่มต้นการระบาดของ Covid-19 พอดีซึ่งส่งผลให้ตารางทัวร์ของวงเลื่อนออกไปเรื่อยๆ จนกระทั้งถูกยกเลิกในที่สุด เเม้พวกเค้าจะมีการปล่อยของให้แฟนๆ หายคิดถึงไปบ้างกับการเเสดงเเบบ from home ในช่วงเวลาสุดเงียบเหงาของวงการดนตรี เเต่การเเสดงสดออนไลน์วันที่ 21 เมษายนที่จะถึงนี้นั้นพิเศษกว่าครั้งไหนๆ เพราะมันคือการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีอัลบั้ม Innerspeaker
INNERSPEAKER 10TH ANNIVERSARY 4LP BOX SET
INNERSPEAKER 10TH ANNIVERSARY 4LP BOX SET
คอนเสิร์ตในรูปแบบออนไลน์ชื่อว่า “Innerspeaker Live from the Wave House” เป็นการเเสดงที่วงจะเล่นเพลงทุกเพลงในอัลบั้มแรก Innerspeaker (2010) ตั้งแต่ต้นจนจบเเบบเพลงต่อเพลง และสถานที่ที่ทางวงจะใช้ในการถ่ายทอด livestream ในครั้งนี้ก็คือ Wave House สตูดิโอในตำนานที่ Kevin Parker ใช้อัดอัลบั้มแรกเมื่อปี 2009 นั่นเอง และก่อนที่เราจะได้ดูคอนเสิร์ตแบบเต็มๆ ในวันที่ 21 เมษายนที่จะถึงนี้ มาย้อนเวลารำลึกถึงความประทับใจครั้งเเรกกับ Innerspeaker กันดีกว่า
ย้อนกลับไปช่วงต้นทศวรรษ 2010s ท่ามกลางกระเเส indie folk (Bon Iver, Fleet Foxes, Panda Bear, Grizzly Bear), synth-pop กำลังพีคได้ที่ (M83, Passion Pit, MGMT) เเละขณะที่ chillwave สาย acid เพิ่งจะเริ่มต้นออกมาให้ชาวอินดี้ได้เปิดประตูบานใหม่ๆ (Neon Indian, Toro Y Moi, Washed Out) ไปจนถึง lo-fi/dream pop (Arial Pink, Beach Fossils, Beach House เเละอีกหลายบีช..) มาจนถึง “Solitude is Bliss” จาก Tame Impala ซึ่งทั้งชื่อเพลงเเละ music video ก็ได้ attention จากพวกเราไปอย่างง่ายๆ ให้กดฟัง โดยเพลงเปิดด้วยอินโทรเสียงกีตาร์ Phaser ชวนหัวหมุน อึมม...ทำไมเพลงซาวด์มันถึงวินเทจขนาดนี้นะ (ช่วงเวลานั้นใครเค้าใช้ Phaser กัน เชยจัง...) เเต่ฟังไปเรื่อยๆ เเพทเทิร์นกลองชวนโยกดีเหมือนกัน เมโลดี้ก็เเอบเพราะ (เอ๊ะ ทำไมมันเท่จังวะ) neo-psychedelia คืออะไร?? ชาวอินดี้ 2010’s คงยังไม่คุ้นหูสักเท่าไรนัก ฟังเเล้วเหมือนเพลงยุคพ่อชอบกล ช่วงเวลาเดียวกันนั้น MGMT กับสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 2 Congratulations เพื่งออกมาหมาดๆ เเค่ซิงเกิลเเรก “Flash Delerium” ก็ทำเอาเหล่าเเฟนๆ synth-pop หัวเสียเล็กน้อย เพลงบ้าอะไรฟังยากจังวะ เเละนั่นอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นกระเเสบางๆของ neo-psychedelia ที่ส่งอิทธิพลต้องซาวด์ดนตรีของหลายๆ วงในยุค 2020s
กลับมาคุยกันต่อเกี่ยวกับ Innerspeaker (2010) อัลบั้มเต็มชุดแรกจาก Tame Impala ซึ่งเป็นศิลปินหน้าใหม่ในช่วงเวลานั้นกับซาวด์ที่ฟังแล้วให้ความรู้สึกอย่างกับฟังอัลบั้มจากวงยุค 60-70s มากกว่า เพราะซาวด์ดนตรีมีความวินเทจมาก และซาวด์ในอัลบั้มต่อๆ มาของ Tame Impala อย่าง Currents (2015) หรือในอัลบั้มล่าสุดอย่าง The Slow Rush (2020) ก็แทบจะไม่มีซาวด์เพลงแบบในอัลบั้มนี้อีกแล้ว ซึ่งในชุดแรกนี่แหละจะมีความเป็นไซคีเดลิกแบบต้นตำรับจากยุค 60 ตอนปลายมากที่สุด (รองลงมาคืออัลบั้มที่สอง Lonerism (2012) ที่มีความป๊อบมากขึ้น และเน้นเสียงสังเคราะห์มากขึ้น) เป็นอัลบั้มที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นส่วนผสมระหว่างซาวด์ไซคีเดลิกแบบฝั่งอเมริกากับเเละร๊อกจากฝั่งอังกฤษ แต่ก็มีเอกลักษณ์ของตัวเองจากการผสานเสียงกีตาร์เอ็ฟเฟ็คเเปลกหู ซาวด์กลองวินเทจ ไลน์เบสเท่ๆ เสียงสังเคราะห์ที่ไพเราะล่องลอย และเสียงร้องครึ่งหลับครึ่งตื่นของ Kevin Parker ที่ฟังครั้งแรกแล้วรู้สึกเหมือนอย่างกับได้ฟังเสียง John Lennon รวมถึงสไตล์การเรียบเรียงเพลงและเนื้อหาที่บอกเล่าความปลีกวิเวกของ Kevin ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากอีกด้วย อัลบั้ม 8.5 คะเเนนรีวิวโดย Pitchfork นี้ ถูกมิกซ์โดย Dave Friedman ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์สาย neo-psych คู่ใจของ The Flaming Lips และ MGMT โดยเขายังได้โปรดิวซ์อีกหนึ่งอัลบั้มอย่าง Lonerism ของ Tame Impala อีกด้วย
อัลบั้ม Innerspeaker มีเพลงโดดเด่นอย่าง “The Bold Arrow Of Time”, “Solitude is Bliss”, “Desire Be Desire Go” หรือเพลงความยาว 7 นาทีอย่าง “Runway Houses City Clouds” รวมถึง “Why Won’t You Make Up Your Mind?” เพลงเดียวจากอัลบั้ม Innerspeaker ที่ยังปรากฎอยู่ใน setlist ในช่วงหลังๆ ของ Tame Impala เเละนี่เองคือความพิเศษของ “Innerspeaker Live from the Wave House” ซึ่งจะเป็นครั้งเเรกที่พวกเราจะได้ยินเพลงที่พวกเขาเเทบไม่เคยเลือกที่จะเล่นในการเเสดงสดไหนเลยในรอบครึ่งทศวรรษที่ผ่านมา
หากใครที่ยังฟังเพลงในอัลบั้มนี้ไม่ครบ คิดถึงไม่ได้ฟังนาน หรืออาจจะไม่คุ้นเคยกับอัลบัมนี้สักเท่าไรนัก ขอแนะนำให้ไปฟังทุกเพลงในอัลบั้มกันสักรอบระหว่างรอดูคอนเสิร์ตของวงในวันพุธที่ 21 เมษายนนี้ เวลา 4 โมงเย็นประเทศไทย
