GET TO KNOW : BLACK COUNTRY, NEW ROAD

‘For The First Time’ อัลบั้มเปิดตัวอันน่าหลงใหลจาก Black Country, New Road กับแนวดนตรี experimental rock ที่คาดเดาไม่ได้

Black Country, New Road รวมตัวก่อตั้งวงขึ้นในปี 2018 ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ประกอบไปด้วยสมาชิก 7 คน ได้แก่  Isaac Wood (ร้องนำ/กีตาร์), Tyler Hyde (เบส), Lewis Evans (แซ็กโซโฟน), Georgia Ellery (ไวโอลิน), May Kershaw (คีย์บอร์ด), Charlie Wayne (กลอง) และ Luke Mark (กีตาร์) หลังจากนั้น 1 ปี วงได้ปล่อยซิงเกิ้ลแรก "Athen's, France" (2019) ออกมาให้เราได้ฟังด้วยดนตรีแนว experimental rock อันแปลกประหลาดที่ผสมผสานดนตรี post-rock, post-punk, free jazz, math rock และ Klezmer (ดนตรีพื้นบ้านของชาวยิว) เข้าด้วยกัน จนเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา วงได้ปล่อยอัลบั้มแรก ‘For The First Time’ ออกมาภายใต้ค่าย Ninja Tune ซึ่งเป็นอัลบั้มที่สื่อต่างประเทศหลายสำนักยกให้เป็น 1 ในอัลบั้มที่ดีที่สุดในต้นปี 2021 เลยก็ว่าได้!

For The First Time อาจไม่ใช่อัลบั้มที่น่าแปลกใจอะไรมากนัก เพราะในอัลบั้มจะประกอบไปด้วย 6 เพลง ซึ่ง 4 เพลงในนั้นถูกปล่อยเป็นซิงเกิลออกมาก่อนหน้านั้นในปีก่อนๆ แล้ว อย่าง “Sunglasses” (2019), “Science Fair” (2020), “Track X” (2021) แต่ถึงแม้ว่าต่อให้คุณฟังซิงเกิลเหล่านี้ไปหลายครั้ง พวกเขาก็ยังสามารถทำให้คุณรู้สึกเซอร์ไพรส์และคาดเดาไม่ได้อยู่ดีในแบบอัลบั้ม แทร็คเปิดอัลบั้ม “Instrumental” เป็นเหมือนการแจมดนตรีแบบ free jazz ที่ผสมสไตล์ post-punk ค่อยๆ ถาโถมทุกอย่างให้หนักขึ้นเรื่อยๆ ในท้ายเพลง ต่อมา "Athen's, France" ซิงเกิลแรกที่ถูกนำกลับมาทำใหม่ในแบบอัลบั้ม เป็นเพลงที่บ่งบอกถึงภาพรวมของอัลบั้มและสไตล์ของวงอย่างชัดเจน experimantal ที่ผสม post-punk และ post-rock ไว้ด้วยกัน จากนั้นต่อด้วยเพลงสุดหลอน “Science Fair” เนื้อเพลงพูดถึงการได้พบหญิงสาวคนนึงในงานวิทยาศาตร์ จากนั้นดนตรีจะค่อยๆ กดดันขึ้นเรื่อยๆ ตามเนื้อเพลงของ Wood และมีท่อน “Oh I was born to run,” และ “it’s Black Country out there,” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคำพูดของ Bruce Springsteen อีกด้วย “Sunglasses” ซิงเกิลต่อมาที่ถูกนำกลับมาทำใหม่ในอัลบั้มนี้เช่นกัน ไล่เรียงอารมณ์ดุเดือดต่อมาจากเพลงที่แล้วอย่างต่อเนื่อง ก่อนให้เราได้พักใน “Track X” เสียงไวโอลิน แซ็กโซโฟน คีย์บอร์ดประสานกันอย่างไพเราะสวยงาม ก่อนปิดไปด้วยเพลงสุดท้าย “Opus” ด้วยทำนองอันโศกเศร้าที่มืดมนและน่าสยอง


105897522_3166578503406716_5195703945319004590_o.jpeg

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แนวดนตรี post-punk ถูกนำมาใช้อธิบายเหล่าวงดนตรีที่มีความอาร์ทและยากต่อการจำแนกแนวเพลงในแถบสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ ซึ่ง Black Country, New Road ก็เป็นหนึ่งในนั้นกับแนวดนตรีทดลอง experimental อย่างอิสระที่ผสมผสาน post-rock กับคาแรคเตอร์ของสมาชิกแต่ละคน เสียงร้องกับเนื้อเพลงที่โดดเด่นของ Isaac Wood นั้นเป็นองค์ประกอบที่กำหนดทิศทางของวง แต่ก็เช่นกันกับแซกโซโฟนของ Lewis Evans และไวโอลินของ Georgia Ellery ที่ถนัดสไตล์แจ๊ส โดยเฉพาะ Evans ที่ชอบเล่นแจ๊สประหลาดๆ ให้กับวง และทั้งคู่ยังหลงไหลในดนตรี Klezmer ดนตรีพื้นบ้านของชาวยิวอีกด้วย ส่วนมือคีย์บอร์ดของวงอย่าง May Kershaw ก็มีความถนัดในแนวคลาสสิกนั่นเอง ซึ่งสิ่งที่โดดเด่นอย่างนึงของวงนั่นคือการ improvise สด ที่กลายเป็นหนึ่งใน DNA ของวงนี้เลยก็ว่าได้

หลังจากได้ฟังอัลบั้มเปิดตัวของพวกเขาไปแล้วต้องบอกเลยว่า Black Country, New Road คือกลุ่มนักดนตรีมากพรสวรรค์ที่มีความสามารถในการสร้างเสียง noise ที่รบกวนโสตประสาท แต่ก็กลับสร้างความสวยงามอันแปลกประหลาดไว้ด้วยกันได้ ซึ่งตั้งแต่สมัยที่วงมีเพลงได้เพียงแค่เพลงสองเพลง ก็ได้ถูกรับการยกย่องผ่านปากต่อปากว่า เป็นว่าหนึ่งในวงดนตรีรุ่นใหม่ที่น่าจับตจามองและสร้างความเปลี่ยนแปลงมากที่สุด บางทีอาจผลักดันรูปแบบวงร็อคให้กลายพันธ์ได้เท่าวงดนตรีอย่าง Radiohead ได้เคยทำ และอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจของวงคือความลึกลับ ที่ไม่ค่อยจะแบ่งปันเรื่องราวชีวิตของพวกเขาทางออนไลน์หรือในการสัมภาษณ์ แต่วงจะสร้างฐานแฟนเพลงและความสนใจจากสื่อมวลชนจากการเล่นสดเท่านั้น แต่ที่พิเศษสำหรับแฟนชาวไทยก็คือเราจะมี interview จากวงมาให้ได้รับชมกันในเร็วๆ นี้! ระหว่างนั้นไปฟังอัลบั้มแรก For The First Time รอกันได้เลย


 

THE LATEST

Previous
Previous

#HYHTHROWBACK : CigaretteS after sex

Next
Next

10 albums TO GET YOU INTO DREAM POP